21st DIHAC cross-cultural exchange meeting analysis report (Thai)

2024.04.04

21st DIHAC Cross-Cultural Exchange Meeting Analysis Report

Kanokporn Pinyopornpanish, Silvia Perel-Levin, Mahendra Kumar Gupta, Saurabh Bhagat, Adrian Tan, Myo Nyein Aung
Report in Japanese  Report in English 

This article is collaboration of DIHAC study team, Juntendo University, Japan and Chiang Mai University, Faculty of Medicine, Department of Family Medicine team, Thailand.

Digitally Inclusive Healthy Ageing Communities (DIHAC) เป็นการประชุมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่เริ่มขึ้นระหว่างประเทศญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์และไทย และขยายต่อไปที่ประเทศอินเดียว โดยในครั้งที่ 21 นี้  ได้เชิญวิทยากรจากประเทศอินเดีย และสิงคโปร์ เพื่อพูดคุยในประเด็น Community Based Social Innovations (CBSI) เกี่ยวกับการเริ่มต้นการดูแลให้เกิดผู้สูงวัยสุขภาพดีและการดูแลระยะยาวในประเทศอินเดียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกและการใช้เทคโนโลยีในการดูแลผู้สูงอายุในประเทศสิงคโปร์ ผู้นำในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล (digital economy)

ศาสตราจารย์ Myo Nyein Aung ผู้นำโครงการ DIHAC ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมจากสิบกว่าประเทศ และกล่าวต้อนรับ คุณ Silvia Perel-Levin จาก International Network for the Prevention of Elder Abuse (INPEA) และ International Longevity Centre Global Alliance (ILC GA) ตัวแทนหลักของสหประชาชาติ กรุงเจนีวา ประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนของผู้สูงอายุ อดีตประธานคณะกรรมการพัฒนาเอกชนเจนีวาด้านผู้สูงอายุ เจนีวา เป็นประธานการประชุม

คุณ Silvia กล่าวเปิดงาน “สิ่งที่เกิดขึ้นในระดับโลกมีผลกระทบต่อนโยบายและกิจกรรมในระดับท้องถิ่น แต่ยังไม่เพียงพอที่เชื่อมโยงระหว่างงานในท้องถิ่นหรือแปลเป็นกิจวัตรประจำวันของเรา” DIHAC ในยุคดิจิทัลมีความสำคัญเนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีศักยภาพในการปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีของผู้สูงอายุ ในช่วงล็อกดาวน์ระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งผู้สูงอายุถูกจำกัดการเข้าถึงมากกว่าคนอื่นๆ ผู้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลจะได้รับประโยชน์จาก ICT ในการเข้าถึงข้อมูล บริการ และรักษาความสัมพันธ์ทางสังคมกับครอบครัวและเพื่อนฝูง ICT ควรพร้อมใช้งาน เข้าถึงได้ และเป็นที่ยอมรับโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ และควรรวมผู้สูงอายุไว้ในการออกแบบ การฝึกอบรม และการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ไม่ใช่แค่ผู้ใช้เท่านั้น นอกจากนี้ ICT ยังสนับสนุนความเป็นอิสระทางการเงินของผู้สูงอายุด้วยการใช้บริการธนาคารออนไลน์ คุณ Silvia ปิดท้ายสุนทรพจน์เปิดงานโดยเน้นไปที่การสนับสนุนในระดับจุลภาค ระดับกลาง และระดับมหภาคทั้งหมด เพื่อรวมผู้สูงอายุในการให้คำปรึกษาและการกำหนดนโยบาย

ภาพ: Chairperson Ms. Silvia Perel-Levin, speakers, international audience and DIHAC study team at the 21st DIHAC meeting

การนำเสนอที่ 1

Mahendra Kumar Gupta ทนายความของศาลฎีกา และประธานสมาคม Residents’ Welfare Association (RWA) ที่ Woodbury Towers ได้นำเสนอเรื่อง “กิจกรรมการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดีของสมาคมสวัสดิการที่อยู่อาศัยในย่าน Faridabad, Haryana, Delhi NCR” RWA เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อประโยชน์ของผู้อยู่อาศัยในเขตเมืองหรือกึ่งเมืองเฉพาะในอินเดีย ในระหว่างการพูดคุย เขาได้เน้นย้ำถึงโครงการริเริ่มของชุมชนที่ RWA ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุในพื้นที่ เมื่อกล่าวถึงช่วงชีวิตสี่ช่วงในปรัชญาฮินดู เขากล่าวว่าผู้คนมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมและจิตวิญญาณมากขึ้นในช่วงสองช่วงสุดท้าย คือ วนาปราสถะและสันยาสะ จึงได้ออกแบบและจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนผู้สูงอายุโดยเชื่อมโยงกับบริการด้านสุขภาพและสังคม RWA จัดการฝึกอบรมดิจิทัลสำหรับผู้สูงอายุ นอกจากนี้ RWA ยังจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับโภชนาการโดยแพทย์และนักโภชนาการ และจัดให้มีการตรวจร่างกายขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้ องค์กรยังให้การสนับสนุนทั้งทางร่างกายและจิตใจ ตลอดจนบริการงานศพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพัง ในส่วนของกิจกรรมทางสังคมและศาสนา RWA ได้จัดโครงการให้ผู้สูงอายุไปเยี่ยมชมสถานที่ทางศาสนาเพื่อสุขภาพด้านจิตวิญญาณ คุณ Gupta Mahendra เน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมการรับรู้ความเป็น “ครอบครัว” ภายในชุมชน ปฏิบัติต่อผู้อยู่อาศัยทุกคนในฐานะสมาชิกที่มีคุณค่า และด้วยเหตุนี้จึงสร้างเครือข่ายที่ช่วยให้การสนับสนุนและมีความยั่งยืนสำหรับผู้อยู่อาศัยและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ด้วยความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตร ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และองค์กรภาครัฐ RWAs ส่งเสริมการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดีของผู้สูงอายุ และสนับสนุนสิทธิมนุษยชนสำหรับผู้สูงอายุ

การนำเสนอที่ 2

นาย Saurabh Bhagat ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมูลนิธิ SHEOWS เขาได้แบ่งปันความมุ่งมั่นและความพยายามที่มีมายาวนานกว่าสามทศวรรษของมูลนิธิ SHEOWS เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้งในอินเดีย การละทิ้งหรือทอดทิ้งถือเป็นการละเมิดผู้สูงอายุรูปแบบหนึ่ง และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากจำนวนประชากรสูงวัยกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก คุณ Bhagat เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงการละทิ้งผู้สูงอายุในอินเดีย เพียงสองทศวรรษที่แล้วข่าวการทอดทิ้งผู้สูงอายุกลายเป็นหัวข้อข่าวและได้รับความนิยมในอินเดีย ปัจจัยหลายประการมีส่วนต่อปัญหานี้ ไม่จำกัดเฉพาะการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคมตั้งแต่ครอบครัวร่วมไปจนถึงครอบครัวเดี่ยว การอพยพของคนรุ่นใหม่เพื่อหาโอกาสในการทำงาน และการขาดความมั่นคงทางการเงินและการพึ่งพาทางการเงินของผู้สูงอายุ เพื่อจัดการกับผลกระทบทางร่างกาย จิตใจ และสังคมที่เกิดจากการละทิ้งผู้สูงอายุนี้ มูลนิธิ SHEOWS เริ่มต้นจากทีมงานช่วยเหลือผู้คนในปี พ.ศ. 2546 ทีมงานได้เดินทางไปทั่วเมืองเพื่อค้นหาผู้คนที่ถูกทิ้งไว้บนถนนโดยไม่มีอาหารเข้าถึง ยารักษาโรค และที่พักพิง มูลนิธิได้มอบการรักษาทางการแพทย์ อาหาร และบ้านให้กับผู้สูงอายุที่สูญเสียไป ด้วยทีมแพทย์ พยาบาล และทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ ปัจจุบันมูลนิธิได้ขยายออกไปเพื่อให้การดูแลผู้สูงอายุ และกำลังวางแผนที่จะร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจากญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ เพื่อทำความเข้าใจความหลากหลายของการดูแลผู้สูงอายุในบริบททางวัฒนธรรมต่างๆ นอกเหนือจากการดูแลผู้อาวุโสไร้ที่อยู่อาศัยแล้ว มูลนิธิ SHEOWS ยังช่วยเชื่อมโยงผู้สูงอายุที่สูญเสียไปกับครอบครัวอีกครั้ง และผู้คนมากกว่า 3,000 คนได้กลับมาอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง นาย Bhagat ยังได้หารือถึงวิธีการแก้ไขและพัฒนานโยบายและกฎหมายของอินเดียเพื่อปกป้องสิทธิและสวัสดิการของผู้สูงอายุ การดำเนินการตามนโยบายและกฎหมายเหล่านี้ยังคงเผชิญกับความท้าทายและจำเป็นต้องมีมาตรการเชิงรุกสำหรับผู้สูงอายุที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา นาย Bhagat ยังเสริมอีกว่า เครือข่ายและการทำงานร่วมกันเพื่อช่วยในการเชื่อมโยงผู้สูงอายุที่ต้องการความช่วยเหลือ และการเชื่อมโยงเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปรับปรุงการดูแลและบริการให้ดีขึ้น โดยสรุป มูลนิธิ SHEOWS มอบบ้านหลังที่สองและครอบครัวสำหรับผู้สูงอายุกลุ่มที่มีความเปราะบาง และอำนวยความสะดวกให้พวกเขาใช้ชีวิตในช่วงทศวรรษสุดท้ายในสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายทั้งทางร่างกายและจิตใจ มูลนิธิ SHOEWS ยังสนับสนุนสิทธิของพวกเขา เนื่องจากการรวมผู้สูงอายุไว้ในการพัฒนานโยบายและการปกป้องสิทธิของพวกเขาเป็นพื้นฐานของเป้าหมายให้เกิดการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดี

การนำเสนอที่ 3

นาย Adrian Tan ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่าย Empathy Officer ที่ SG Assist นำเสนอผลงานเชิงนวัตกรรมของเขาในหัวข้อ “การเสริมพลังความคิดและชีวิตของชาวสิงคโปร์สูงวัยผ่านการบูรณาการการช่วยเหลือด้านอาหารเข้ากับการรวมทางดิจิทัลและฑูตการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับผู้สูงอายุ (Gerontechnology Ambassador)” คุณ Tan เริ่มต้นกิจการเพื่อสังคม SG Assist ด้วยแรงบันดาลใจในการช่วยเหลือผู้ดูแล (caregiver) โดยการเป็นอาสาสมัครผ่านแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ด้วยเครือข่ายอาสาสมัครนี้ จึงได้เปิดตัว “โปรแกรม Digital Buddy” ด้วยความร่วมมือกับตลาดกลางและร้านขายของชำ อาสาสมัครบรรจุผักและแจกจ่ายอย่างอิสระในละแวกบ้าน เมื่อเวลาผ่านไป ผู้อาวุโสเริ่มคุ้นเคยกับอาสาสมัครซึ่งจะให้ความรู้แก่ผู้อาวุโสเกี่ยวกับวิธีการใช้แอปพลิเคชันบนมือถือ เช่น WhatsApp, Facebook, ช่องทางการส่งข้อความใหม่ และแอปของรัฐบาล รวมถึงการสแกนโค้ด QR เพื่อใช้ติดตาม พฤติกรรมนี้เปลี่ยนการสื่อสารทำให้ผู้อาวุโสเรียนรู้ทักษะดิจิทัลใหม่ๆ ทุกครั้งที่เข้าร่วมกิจกรรม หลังจากผ่านไปหนึ่งปี ผู้อาวุโสก็มีส่วนร่วมมากขึ้นในโครงการบริการสังคมอื่นๆ ในฐานะอาสาสมัคร นี่เป็นการเปิดโอกาสให้มีงานเล็กๆ น้อยๆ แก่ผู้สูงอายุรวมทั้งผู้ที่มีความพิการด้วย โปรแกรม Care Agent (CAC) ออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพผู้สูงวัยโดยการฝึกอบรมให้เป็นเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทักษะการตระหนักรู้ถึงเหตุฉุกเฉินและทักษะทางเทคนิค เช่น การใช้ Google Workspace ด้วยวิธีนี้ผู้อาวุโสจึงมีส่วนร่วมในชุมชนและป้องกันไม่ให้พวกเขาแยกตัวจากสังคม เทคโนโลยีช่วยเหลือถูกนำมาใช้เพื่อรองรับความสามารถที่แท้จริงของผู้สูงอายุในการดำเนินชีวิตประจำวัน การรับประทานอาหาร การเคลื่อนไหว และการดูแลสุขภาพ ซึ่งสอดคล้องกับแนวปฏิบัติของ WHO ICOPE (2) ในฐานะฑูตการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับผู้สูงอายุ สามารถสร้างชุมชนที่ครอบคลุมสำหรับผู้อาวุโส ผู้ดูแล และส่งเสริมการมีส่วนร่วม และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับผู้สูงอายุ

กล่าวปิด

บริการการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดีและการดูแลระยะยาวได้ริเริ่มขึ้นแล้วในสิงคโปร์และอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีผู้สูงอายุชายขอบเข้าร่วมด้วย คุณ Silvia Perel-Levin ประธานการประชุมปิดการประชุม DIHAC ครั้งที่ 21 เน้นย้ำถึงความสำคัญของสิทธิของผู้สูงอายุที่จะรวมอยู่ในสังคม “เราควรท้าทายอคติที่ว่าเพียงเพราะเราแก่แล้ว เราไม่สามารถเรียนรู้หรือเข้าใจเทคโนโลยีได้ เรามีสิทธิ์ที่จะเรียนรู้ที่จะมีความสุขกับชีวิต เติบโตอย่างมีศักดิ์ศรีในชุมชน และเราควรได้รับการสนับสนุนให้ทำทุกอย่างตามสภาพของเราและทุกที่ที่เราอาศัยอยู่ เราสามารถมีส่วนร่วมและมีส่วนร่วมในการพัฒนาสิทธิมนุษยชนทั่วโลก นอกจากนี้ รัฐบาลและหน่วยงานของสหประชาชาติควรส่งเสริมการพัฒนาขีดความสามารถของผู้สูงอายุและองค์กรของพวกเขา และลงทุนในความพยายามของผู้ประกอบการโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติใดๆ ในระดับโลก”

“เทคโนโลยีดิจิทัลไม่ใช่สิ่งฟุ่มเฟือย แต่เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ช่วยให้ได้รับสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่ และจำเป็นต้องมีแนวทางที่ยึดหลักสิทธิมนุษยชนตลอดทั้งการออกแบบไปจนถึงการใช้ ICT”

ด้วยนวัตกรรมทางสังคมในบริบททางวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของอินเดียและสิงคโปร์ เราสามารถมองเห็นการบูรณาการบริการชุมชนเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อวัย การเพิ่มขีดความสามารถของผู้อาวุโสด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลจะกระตุ้นให้ผู้สูงอายุยังคงอยู่ในสถานที่ที่พวกเขาผูกพัน ทำในสิ่งที่พวกเขาเชื่อและเห็นคุณค่า ในขณะเดียวกันก็รักษาสุขภาพกายและการเชื่อมต่อทางสังคมด้วยเป้าหมายสูงสุดของ “การสูงวัยในสถานที่ (Aging in Place)” การสูงวัยอย่างมีสุขภาพดีและการไม่แบ่งแยกทางดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความยั่งยืนของมนุษยชาติ

การประชุม DIHAC ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในเดือนเมษายน 2567

เอกสารอ้างอิง

  1. WHO Guidelines Approved by the Guidelines Review Committee. Integrated Care for Older People: Guidelines on Community-Level Interventions to Manage Declines in Intrinsic Capacity. Geneva: World Health Organization Copyright © World Health Organization 2017.; 2017
  2. United Nations EaSCfAatPE. ESCAP Population Data Sheet 2023 2023 [Available from: https://www.population-trends-asiapacific.org/population-data.

ผู้นิพนธ์

Kanokporn Pinyopornpanish, M.D., Ph.D. is Associate Professor at the Department of Family Medicine, Chiang Mai University, Thailand

Silvia Perel-Levin, M.Sc., is International Network for the Prevention of Elder Abuse (INPEA) and International Longevity Centre Global Alliance (ILC GA) main representative to the UN, Geneva, Chair sub-committee on the human rights of older persons. Past Chair, Geneva NGO Committee on Ageing, Geneva

Mahendra Kumar Gupta, is Advocate Supreme Court, President Residents’ Welfare Association (RWA) Woodbury Towers and Convener of all RWA Charmwood Village, Faridabad

Saurabh Bhagat,  is CEO and Sujit Kumar Das Mohapatr, General Manager, Sheows Foundation

Adrian Tan, is Co-Founder and Chief Empathy Officer at SG Assist

Myo Nyein Aung, M.D., M.Sc., Ph.D. is Associate Professor at the Department of Global Health Research, Graduate School of Medicine, Juntendo University, Tokyo, Japan